เป็นครั้งแรกของเราที่ได้ไปมาเลเซียก็เลยนึกถึงเพลงของพี่เป้ อารักษ์ ขึ้นมาทันที นึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง แต่พอได้ไปสัมผัสกับตัวเองก็รู้สึกว่ามีความว้าวมาก ในเรื่องของการให้บริการส่วนใหญ่ดีมาก การเดินทางโดยรถสาธารณะค้อนข้างสะดวกและราคาไม่แพง สิ่งหนึ่งที่ชอบมากก็คือภาพวาดบนผนังที่ดูเป็นระเบียบสวยงามดูมีชีวิตชีวา
การเดินทางไปมาเลเซีย
รถไฟจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ – ปาดังเบซาร์ รอบ 15:35 – 09:50 น. ในราคา 848 บาท พอออกมาจากรถไฟก็ไปตามทางต่อคิวปั๊มพาสปอร์ตขาออกรออยู่ครึ่งชั่วโมงได้ ด่านปั๊มขาเข้าก็ห่างกันนิดเดียวแต่ยืนรอเป็นชั่วโมงเลยเพราะคนต่อคิวเป็นร้อยเลย ถ้าอยากอยู่คิวแรกๆแนะนำรถไฟจอดปุ๊บวิ่งออกมาเลย
เช็ครอบรถไฟได้ที่เว็บไซต์นี้เลยจ้า https://www.dticket.railway.co.th/
จองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – กัวลาลัมเปอร์ นั่งรถไฟฟ้าจากสนามบินเข้าเมืองได้เลย แต่ถ้าไปเคแอลเซนทรัลโดยตรงคนละ 50 ริงกิตได้ แพงมากแม่ แต่ก็ไกลมากด้วย แต้ก็มีวิธีที่นั่งราคาถูกกว่านี้ก็คือต้องนั่งแบบสลับสลาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปลายทางที่แต่ละคนจะไปด้วยนะ
การเดินทางในมาเลเซีย
รถไฟฟ้า เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกที่ในกัวลาลัมเปอร์เลย สามารถนั่งรถไฟไปสถานที่ท่องเที่ยวได้แทบทุกที่แถมยังราคาถูกอีกด้วย
รถบัส แนะนำจองแบบออนไลน์และมารับตั๋วที่เคาท์เตอร์ ส่วนใหญ่จะมีเก็บภาษีนักท่องเที่ยวด้วย 1 – 2 ริงกิต บางที่ก็ไม่เก็บนะ
แกรป ไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนก็ไป แถมยังราคาถูกกว่าที่ไทยเกือบครึ่งนึงได้
แม็กซิม จะเป็นแอปเรียกใช้บริการแท็กซี่เหมือนกัน ราคาถูกกว่าแกร็ปอีกนิดหน่อย มีติดไว้ในมือถือก็ดีนะ
สิ่งที่ควรเตรียมไปมาเลเซียและสิ่งที่ควรรู้
- ตัวแปลงปลั๊กแบบสามขา ถ้าซื้อที่มาเลประมาณอันละ 5 ริงกิต
- ภาษีนักเที่ยว บางโรงแรมจะมีเรียกเก็บภาษีนักท่องเที่ยวตอนเช็คอิน บางที่ก็ไม่เรียกเก็บอาจจะรวมกับค่าห้องไปแล้วก็ได้
- ตั๋วรถบัส ถึงแม้เราจะจ่ายตังค์แล้วก็มีเรียกเก็บภาษีด้วยเช่นกันตอนไปรับตั๋ว คนละ 1 หรือ 2 ริงกิต บางที่ก็ไม่เก็บนะ
- เราคิดว่าคนในเมืองกัวลาลัมเปอร์มีคนแปลกๆเยอะ บางทีเดินอยู่บนถนนก็มีคนยืนเยี่ยวอยู่บนฟุตบาทเลย
- ข้าวผัดส่วนใหญ่จะผสมปลา รสชาติมันแปลกๆน่ะ
ที่เที่ยวในมาเลเซีย
เกาะลังกาวี
เกาะที่คนไทยคุ้นเคยกันในตำนานของพระนางมัสสุหรี สาวไทยชาวภูเก็ตที่แต่งงานกับเจ้าชายลังกาวี แต่โดนใส่ร้ายจนต้องถูกประหารชีวิต ก่อนสิ้นพระชนม์พระนางได้กล่าวไว้ว่า “หากไม่มีความผิดขอให้โลหิตเป็นสีขาว” และยังสาปให้ลังกาวีไร้ความสงบสุขและความเจริญไป 7 ชั่วคน
หาดเซนัง (Cenang Beach) เป็นหาดที่ค่อนข้างยาวและอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ตอนเย็นก็จะเห็นพระอาทิตย์ตกพร้อมเครื่องบินกำลังจะลงจอดที่สนามบินได้ ค่อนข้างสะดวกเพราะมีห้าง ร้านอาหาร ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ และ 7-11 แถมยังมีกิจกรรมโชว์ควงไฟให้ชมกันตอนค่ำด้วย
สะพานลอยฟ้า ลังกาวี (Sky Bridge Langkawi) เป็นหนึ่งในสะพานลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก จะต้องนั่งกระเช่าลอยฟ้าขึ้นไปประมาณสองต่อ ต่อละ 15 นาที สามารถเห็นวิวจากด้านบน 360 องศาสวยมาก ขนาดอยู่สูงขนาดนี้ก็ยังมีน้องลิงอยู่นิดหน่อยนะ
พิกัด: Langkawi Sky Bridge เปิด 9:30 – 19:00 น.
ทัวร์ป่าโกงกาง (Mangrove Tour) ที่ Kilim Geoforest Park เป็นอีกหนึ่งทัวร์ที่หน้าสนใจ โดยการนั่งเรือเร็วชมธรรมชาติของเกาะลังกาวี เช่น จุดชมนกอินทรีย์ บางเจ้าก็สามารถให้อาหารได้ด้วย, ให้อาหารน้องลิง, ถ้ำจรเข้ ซึ่งเป็นถ้ำที่มีลักษณะผิวคล้ายจรเข้นั่นเอง, ถ้ำค้างคาว และจบด้วยการทานอาหารกลางวันที่แพกลางแม่น้ำพร้อมดูโชว์ปลาด้วย ทัวร์จะมีรอบเช้าและรอบบ่าย
เมืองอีโปห์ (Ipoh)
เป็นเมืองที่น่าสนใจเมืองหนึ่ง ประชากรส่วนใหญ่ใช้รถยนต์ในการเดินทาง เห็นแล้วไม่กล้าขี่มอเตอร์ไซค์เลย คนที่ในท้องที่ก็จะเป็นชาวจีนมากกว่าชาวมุสลิม คุณลุงคนขับแกรปบอกว่าอาหารที่เมืองนี้ถือเป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุดในมาเลเซีย มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเพื่อทานอาหารกันโดยเฉพาะเลย นอกจากนี้ก็ยังมีอาคารที่หลากหลายทั้งของอังกฤษ จีน หรือ อินเดีย
Tasik Cermin(Mirror Lake) เป็นแม่น้ำที่มีลักษณะเหมือนภาพสะท้อน มีบริการเรือให้นั่งชมธรรมชาติรอบๆแม่น้ำ
Ling Sen Tong Temple ที่วัดถ้ำจีนที่เต็มไปด้วยรูปปั้นสีสันมากมาย แอบเห็นรูปปั้นหงอคงด้วย
Sam Poh Tong Temple วัดถ้ำจีนที่เข้าไปด้านในแล้วจะเจอน้องเต่าเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ติดตรงทางเข้าจะมีขอทานนั่งเรียงแถวกันอยู่
Kong Heng Squre คล้ายกับเมืองเก่าภูเก็ตบ้านเรา มีร้านอาหารมากมายทั้งถูกและแพงเลือกตามใจชอบเลยจ้า
หอนาฬิกา อีโปห์ (Birch Memorial Clock Tower) หอนาฬิกาประจำเมืองอีโปห์ อยู่ตรงข้ามกับมัสยิดประจำเมือง สร้างขึ้นในปี 1909 เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ J.W.W. Birch ประชากรชาวอังกฤษคนแรกของรัฐเปรัค มีทั้งหมด 4 ด้าน ประดับด้วยภาพวาดและรูปปั้นต่างๆ และที่ด้านบนสุดของหอฬิกายังมีระฆังขนาดใหญ่อยู่ด้วย
สถานีรถไฟอีโปร์ (Ipoh Railway Station) สถานนีรถไฟเก่าแก่ที่ยังคงเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามสไตล์อังกฤษทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาถ่ายรูป
Cameron Highland
เป็นเมืองที่อยู่บนภูเขา อากาศหนาวตลอดปี ได้บรรยากาศแบบชนบทในอังกฤษ อาคารหลายแห่งออกแบบในสไตล์อังกฤษ และยังเป็นสถานที่ที่ จิม ทอมป์สัน เจ้าของแบรนผ้าไหมไทยได้หายตัวไป
Kea Garden รวมทุกอย่างในที่เดียวกัน คือ เป็นที่พัก มีมุมสำหรับเด็ก ฟู๊ดคอร์ด ร้านขายของฝาก ให้อาหารแกะ และเก็บสตรอเบอรี่ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวค่อนข้างจะแพงกว่าในเมืองนิดหน่อย
Malacca หรือ Malaka
เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันของอาคาร ภาพวาดบนพนังอาคารอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ขึ้นชื่อในเรื่องของตลาดนัดตอนกลางคืน มัสยิดที่สวยงาม และกิจกรรมอื่นอีกมากมาย
ถนนคนเดินยองเกอร์ (Jonker Street Night Market) ตลาดนัดกลางคืนที่มีทุกๆสุดสัปดาห์ มีทั้งของกินราคาถูกและอร่อย ส่วนร้านอาหารตามสั่งก็จะราคาสูงนิดหน่อย
มัสยิดเซลัทหรือมัสยิดช่องแคบมะละกา (Melaka Straits Mosque) ดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น พร้อมกับมัสยิดจะเริ่มเปิดไฟสีสันสวยงาม
ล่องเรือแม่น้ำมะละกา (Melaka River Cruise) นั่งเรือชมวิวเมืองมะละกาได้ตั้งแต่ช่วงเช้าและค่ำ สามารถจองออนไลน์หรือซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ในราคาที่เท่ากัน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
Little India ชุมชนชาวอินเดีย อยู่ไม่ไกลจากถนนคนเดิน มีร้านอาหาร ร้านค้าที่ขายสินค้าต่างๆของอินเดีย
โบสถ์คริส (Christ Church Melaka) โบสถ์แองกลิกันที่สร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 18 เป็นโบสถ์โปรเตสแตนท์ที่อยู่มานานที่สุดในประเทศมาเลเซีย
Kuala Lumpur
เมืองหลวงของมาเลเซีย เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ และเส้นทางรถไฟฟ้าที่ครอบคุมเกือบทุกพื้นที่ สะดวกต่อการเดินทาง
China Town คล้ายๆกับไชน่าทาวน์บ้านเรา แต่ที่นี่จะมีของก็อปวางขายดูเหมือนกับที่พัฒพงษ์มากกว่า
ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Towers) หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่คนนิยมไปถ่ายรูปกันมาก
เคแอลซีซี พาร์ค (KLCC Park) สวนสาธารณะใจกลางเมือง ห่างจากทวินทาวเวอร์ไม่กี่นาที บางช่วงจะมีโชว์น้ำพุด้านหน้า หรืออากาศร้อนมากก็สามารถจุมเท้าที่สระด้านหลังปลาวาฬได้ด้วย
ถนนคนเดินยาลันอาลอร์ (Jalan Alor walking street) ร้านอาหารติดกันเป็นแนวยาวและคนเยอะมาก มีทั้งอาหารไทย มาเล อินเดีย บางร้านก็พูดภาษาไทยได้ด้วย
Nundo’s chicken ไก่ย่างสไตล์แอฟริกาใต้ จิ้มกับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวเผ็ด เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งและผัก
ถ้ำบาตู (Batu Cave) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางศาสนา สถานที่ยอดฮิตที่ทุกคนชอบถ่ายรูปกันก็คือตรงรูปปั้นพระขันธกุมารที่สูงที่สุดในโลก
อาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด (Sultan Abdul Samad Building) เป็นอีกหนึ่งผลงานสถาปัตยกรรมที่สวยงามเหมาะกับสายถ่ายรูปเลย
Sabah
เกาะขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับบรูไน ฟิลิปปินส์ เป็นที่รู้จักในเรื่องของทะเล ป่าดงดิบซึ่งเป็นบ้านของอุรังอุตังและหมีดำนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีเกาะใกล้เคียงที่สามารถไปเที่ยวได้ด้วย
ซันดากาน (Sandakan) เป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล แต่ตรงที่เราไปเหมือนจะเป็นต้นน้ำก็เลยไม่ได้เห็นทะเลแบบใสๆ และพื้นที่รายล้อมไปด้วยป่าดงดิบ เป็นที่อยู่อาศัยของอุรังอุตัง หมีดำ และตอนนี้ได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ (ที่ Sepilok) ในท้องถิ่นเพื่อไม่ให้สูญพันต์เพราะตอนนี้ก็มีอยู่ไม่มากนัก
สรุป
และนี่ก็คือสถานที่ที่เราไปในสองอาทิตย์แบบคร่าวๆ แต่จะมีลงรายละเอียดมากขึ้นในโพสต์ถัดไป จริงๆก็ยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจ หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวที่มาเลเซียก็ลองดูเป็นแนวทางกันได้จ้า