เหตุเกิดจากการที่กำลังจะไปจอร์จทาวน์แต่ไม่ได้มีจากจองที่พักล่วงหน้าแถมยังตรงกับวันหยุดยาว เลยหาที่พักในงบที่เราตั้งไว้ไม่ได้ แพลนเลยเปลี่ยนไปเป็น เกาะลังกาวี
การเดินทางไปเกาะลังกาวี มาเลเซีย
เรานั่งรถไฟจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ – ปาดังเบซาร์ รอบ 15:35 – 09:50 น. ในราคา 848 บาท ขบวนจะมีหลายตู้แต่จะมีการแบ่งตู้รถไฟออกตอนที่ใกล้จะถึงฝั่งมาเลเซีย ตอนแรกไม่รู้ว่าจะมีการแบ่งขบวนรถไฟออก เราก็สั่งกาแฟกับพนักงานห้องสะเบียงไว้ อดเลย
ก่อนถึงมาเลเซียจะผ่านด่านปาดังเบซาร์ที่ไทยยังไม่ต้องลงนะ ประมาณ 15 นาทีหลังจากนี้จะถึงปาดังเบซาร์ที่มาเลเซียเราถึงลงได้ พอถึงแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่บอกให้เดินไปตามทาง เพื่อที่จะไปปั้มพาสปอร์ตขาออกด่านนี้รอคิวไม่นานมาก หลังจากนั้นก็จะเจอด่านขาเข้ารอเป็นชั่วโมงได้
พอผ่านด่านสุดท้ายแล้วก็เดินขึ้นบันไดไปด้านบน จะเป็นสถานีรถไฟชานเมือง สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาท์เตอร์หรือตู้จำหน่ายแต่จ่ายได้เฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น เราซื้อตั๋วไปลง Arau ประมาณ 3 สถานีใช้เวลา 20 นาที คนรอขึ้นรถไฟเป็นร้อย อัดกันเป็นปลากระป๋องไปเลย คิดในใจดีนะที่ไม่ได้นั่งไกลไปจอร์จทาวน์
พอถึงสถานีปลายทางก็นั่งแกรปไปท่าเรือ Kuala Perlis Ferry Terminal 14 ริงกิต 15 – 20 นาทีก็ถึงแล้ว เราก็ไปถามทุกเคาท์เตอร์เลยว่ามีตั๋วไปลังกาวีไหมทุกคนบอกว่าตั๋วเต็มแล้ว เราเลยตัดสินใจเดินไปถามคนที่ตรวจตั๋วก่อนขึ้นเรือแต่ติดตรงที่มีครอบครัวใหญ่เดินก่อนหน้าเราเลยไม่ได้มีโอากาศคุยกับคนตรวจตั๋วแล้วเราก็เนียนเดินตามเข้าไป ณ ตอนนั้นระทึกมากเพราะไม่อยากค้างที่ท่าเรือบวกกับไม่มีใครขายตั๋วให้ ก็ขึ้นไปนั่งพื้นชั้นบนสุดตรงท้ายเรือ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุนั่งสูบบุหรี่ตรงนั้น แต่เราก็เห็นว่าที่นั่งด้านในยังมีว่างเยอะมากเลยไม่แน่ใจว่าทำไมทุกที่บอกว่าเรือเต็มแล้ว
ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปเรือก็เทียบท่าคาดว่าจะเป็นที่ Langkawi Ro Ro Ferry Services เราก็เรียกแกรปไปที่โรงแรมเกือบครึ่งชั่วโมงถึง
ที่พักริมทะเลที่น่าสนใจในลังกาวี
Cenang View Hotel โรงแรมที่มีเกือบทุกอย่างไม่ว่าจะมุมพักผ่อน สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และใกล้กับร้านค้า ไม่ต้องไปไหนไกลเลย
Bed Attitude Hostel Cenang โฮสเทลที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและบรรยากาศที่เป็นกันเอง หากเดินทางคนเดียวก็มีโอกาสเจอเพื่อนร่วมทางระหว่างทางได้
Tubotel Langkawi ไม่ชอบความวุ่นวายก็ย้ายมาที่ท้ายหาดได้ซึ่งมีความเงียบสงบ พร้อมกับนอนดูพระอาทิตย์ตกจากห้องนอนที่เป็นห้องกลมๆและสีสันสวยงาม แต่อาจจะไกลจากร้านสะดวกซื้อนิดหน่อย
เช่ามอเตอร์ไซค์ในลังกาวีใช้ใบขับขี่สากลหรือใบขับขี่ไทย
สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งได้เลยจ้า
ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ลังกาวีวันละเท่าไหร่ มีมัดจำไหม
จากการสำรวจที่ถนนหาดเซนัง เราเช็คราคากันแต่ละร้านก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า วันละ 35 ริงกิตต่อคัน และมัดจำ 50 ริงกิต ต่อคัน ถ้าร้านที่ลดราคาได้ก็จะให้รถที่ดูเก่าลงมาหน่อยในราคา 30 ริงกิตต่อวัน
เที่ยวลังกาวี 4 วัน 3 คืน
วันแรก เราเช็คอินที่โรงแรม tubotel langkawi อยู่ค้อนค้างท้ายหาด มีร้านอาหารใกล้โรงแรมแต่จะเปิดตอนเย็น บางร้านก็เปิดเร็วหน่อย
วันที่สอง ตั้งใจจะไป Sky Brige Langkawi บางคนก็เรียก Langkawi Cable Car (SkyCab) แต่ตื่นสายนิดหน่อย เราเรียกแกรบจากโรงแรมไปที่ ห้างเซนัง(Cenang Mall) 6 ริงกิต เจอ 7-11 เลยได้ของกินรองท้อง แล้วก็ไปเดินหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ได้มาในราคา 30 ริงกิตต่อวันและมัดจำ 50 ริงกิต ปักหมุดในกูเกิลแล้วก็ออกเดินทางเลย ใช้เวลา 20 นาทีถึง ระหว่างทางก็จะมีน้องลิงเป็นฝูง รู้สึกเสียวสันลังวาบว่าน้องจะกระโดดมาด้านหลังไหม แต่ยังไม่เห็นมีตัวไหนโดดใส่นะ
สามารถจองตั๋วได้ที่ Klook ราคาขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราเลือก เราเลือกตั๋วสำหรับขึ้นกระเป๋าแล้วก็สะพานลอยฟ้า ในราคาตกคนละ 60 ริงกิต จะได้ตั๋วมา 2 ใบยาวๆ พนักงานจะคล้องให้ทางเข้าแรกแล้วก็สแกนบาร์โค๊ดที่ข้อมือ
ด่านแรกเราก็นั่งกระเช้าขึ้นไปด้านบนใช้เวลาประมาณ 15 นาที เห็นวิวแบบ 360 องศาสวยมา แต่กระเช้าจะมัวๆนิดหน่อยนะ เห็นหาดเซนังมาแต่ไกล ทะเลก็สวยมาก แล้วก็นั่งกระเช้าอีกต่อนึงเพือไปที่สะพานลอยฟ้า กว่าจะไปถึงสะพานมีบริการเหมือนลิฟท์เพื่อที่จะไปที่สะพานเร็วขึ้นแต่ต้องเสียตังค์เพิ่มหรือจะเดินไปเองก็ได้ เดินสำรวจจนเหนื่อยเพราะอากาศร้อนไม่แพ้ประเทศไทยและหิวด้วยเลยกลับลงมาด้านล่าง แวะไปดูสวนสัตว์ก่อนออกมาหาอะไรกินข้างนอกที่ราคาถูกกว่าด้านใน ได้ไก่ทอด ผัดเส้นเหลืองแล้วก็น้ำมะนาวที่ดูแปลกๆแต่อร่อยเฉยกินก่อนกลับโรงแรม
วันที่สาม จอยทัวร์ป่าโกงกาง(Mangrove tour)ที่ Kilim Geoforest Park หลังจากเช็คกับบริษัททัวร์ก็ไม่ได้ราคาที่โดนและเวลาที่ใช่เลยได้จองกับ Klook อีกครั้ง ซึ่งมีพนักงงานส่งข้อความมาทาง Whatspp เพื่อนัดเวลาแล้วก็สถานที่ก่อนวันที่เราไป
ทัวร์เริ่มประมาณสี่โมง พนักงานก็บอกให้เรามาถึงก่อน เก้าโมงห้าสิบ พากันขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาแต่เช้าอากาศกำลังดี ไปถึงก็จะเจอรถจอดอยู่เยอะๆ จะจอดตรงไหนก็ได้ไม่เสียค่าจอด แล้วก็เดินเข้าไปจะมีศาลาท่าเรือซึ่งมีเคาท์เตอร์ของบริษัทที่เราจองไว้ เขาก็แจกสติ๊กเกอร์ให้คนละอัน
ถึงเวลาพนักงานก็เรียกลงเรือ ซึ่งเรือของเราจะมีแค่คนขับเรือแถมเป็นไกด์ด้วยในคนเดียวกัน คุยสนุกมาก จุดแรก ผ่านเขาที่มีลักษณะเหมือนกอลิล่า จุดที่สองจะเป็นการดูนกอินทรีย์หรือให้อาหารนกอินทรีย์ จุดที่สามจะเป็นให้อาหารน้องลิง ตอนแรกมาคิดว่าจะให้อาหารลิงไม่ได้แต่เห็นนักท่องเที่ยวอีกคนซื้อกล้วยมาเป็นหวีเลย จุดที่สี่จะเป็นถ้ำจระเข้ เพราะผิวของถ้ำจะมีลักษณะคล้ายกับผิวหนังของจระเข้แต่วันที่เราไปน้ำขึ้นสูงเกินไปทำให้เข้าถ้ำไม่ได้ จุดที่ห้าคือ ถ้ำค้างคาว จะต้องซื้อบัตรเข้าชมและมีค่าเช่าไฟฉายเพื่อที่จะส่องดูครั้งข่าวต่างหาก ด้านนี้เริ่มปวดท้องไม่ไหวแต่ไม่มีห้องน้ำให้เข้า จุดที่หกคือจุดสุดท้ายที่เราจะไปคือแพร้านอาหาร ทัวร์ที่เราจองมาจะรวมอาหารกลางวันด้วยซึ่งทางร้านจะเตรียมที่นั่งสำหรับนักท่องเที่ยวไว้ให้พร้อมกับวางเมนูไว้บนโต๊ะหากต้องการสั่งอาหารเพิ่มเราก็ต้องจ่ายเองส่วนอาหารที่ทางทัวร์จัดให้จะเป็นข้าวผัดเราไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ก่อนรับประทานอาหารเจ้าหน้าที่ก็จะพาไปดูปลาในกระชังและมีคำอธิบายประกอบ ซึ่งปลาแต่ละตัวก็มีประวัติที่ไม่ธรรมดา พอรับประทานอาหารเสร็จพี่ไกด์ก็พากลับไปที่ท่าเรือ
พอเสร็จทัวร์แล้วเราก็เอามอเตอร์ไซค์ไปคืนที่ร้านแล้วก็พักผ่อนตามอัธยาศัย หมดไปอีกหนึ่งวัน
วันที่สี่ ตื่นเช้าเตรียมตัวไปท่าเรือเพราะว่าจองตั๋วเรือไว้รอบเช้าเพื่อที่จะกลับไปที่ท่าเรือ Kuala Perlis Ferry Terminal อีกครั้ง เนื่องด้วยมีคนตื่นสายพากันวิ่งหน้าตั้งนาทีสุดท้ายหอบกิน
บทสรุป
วันแรกของเราก็จะหมดไปกับการเดินทางซะส่วนใหญ่เพราะมาถึงปาดังเปซาร์ก็ครึ่งวันแล้ว นั่งรถไฟ ต่อด้วยเรือก็หมดไปอีกครึ่งวันไปถึงก็ใกล้เย็นพอดี วันที่สองตื่นสายแล้วขี่มอเตอร์ไซค์แบบไม่รีบแต่บางช่วงที่เจอแดดร้อนตอนไปสะพานลอยฟ้าก็ทำให้เพลียได้ง่ายเหมือนกัน วันที่สามก็ไปทัวร์ป่าโกงกางแนะนำให้เอารองเท้าแตะไปด้วย ตอนเย็นก็กลับพักผ่อนเพราะต้องตื่นเช้าไปที่ท่าเรือวันที่สี่
ค่าใช้จ่ายทริปเกาะลังกาวีแบบคร่าวๆ เรทไทยบาทอยู่ที่ 7.6 บาทต่อ 1 ริงกิต
ค่าห้อง งบคืนละไม่เกิน 50 ริงกิต
ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 30 ริงกิต ต่อ วัน
มัดจำมอเตอร์ไซค์ 50 ริงกิต
น้ำเปล่า ขวดละ 1 – 2 ริงกิต
อาหารขึ้นอยู่กับร้านมีตั้งแต่ราคา 2 ริงกิตเป็นต้นไป เราใช้วันละไม่เกิน 400 บาท
ค่าเรือขากลับคนละ 35 ริงกิต
ตั๋ว sky cable car 60 ริงกิตต่อคน
ทัวร์ Mangrove 98 ริงกิตต่อคน ไม่รวมรถรับส่ง
